TCAS (Thai University Central Admission System) คือระบบคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยรูปแบบล่าสุดโดย ทปอ. หรือที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย
TCAS คิดค้นขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาความซ้ำซ้อนของระบบการรับนักศึกษาใหม่ของแต่ละมหาวิทยาลัย และลดค่าใช้จ่ายในการสอบที่ไม่จำเป็น
CAS แบ่งออกเป็น 5 รอบได้แก่ (1) รอบแฟ้มประวัติสะสมผลงาน(Portfolio) (2) รอบรับตรงแบบโควต้า (3) รอบรับตรงร่วมกัน และกสพท. (4) รอบรับตรงแบบแอดมิชชั่น (5) รอบรับตรงแบบอิสระ
ถึงแม้ทปอ. หรือที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยจะมีมติเปลี่ยนระบบการรับเข้านักศึกษาใหม่ในระดับอุดมศึกษาเป็นระบบ TCAS หรือ Thai University Central Admission System มาพักใหญ่แล้ว แต่ก็ยังคงมีน้องๆ หรือผู้ปกครองที่ยังมีข้อสงสัย ไม่เข้าใจกับระบบดังกล่าว พี่แอดมินก็เลยอยากจะนำเรื่อง TCAS มาย่อยให้เข้าใจได้ง่าย ก่อนวางแผนเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยกัน
TCAS คืออะไรกันนะ ?
ระบบ TCAS ถูกคิดขึ้นมาเพื่อลดความซ้ำซ้อนในการรับนักศึกษาในระบบมหาวิทยาลัย ลดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็น และลดการกีดกันที่นั่งจากนักเรียนที่มีสิทธิ์เข้าเรียนในหลายๆที่ เพราะแต่ละมหาวิทยาลัยก็จะมีการเปิดรับนักศึกษาเข้าหลายรอบ และมักจะเปิดไม่พร้อมกัน TCAS จึงเป็นระบบที่เข้ามาจัดการปัญหาตรงนี้ให้เป็นระบบมากขึ้น
ข่าวว่า TCAS มีหลายรอบ ทำไมต้องเยอะ มันต่างกันอย่างไร ?
ระบบ TCAS จะแบ่งรอบการรับนักศึกษาทั้งหมด 5 รอบได้แก่
- รอบแฟ้มประวัติสะสมผลงาน (Portfolio) : เน้นการใช้เกรด, แฟ้มประวัติสะสมผลงาน และการสัมภาษณ์เพิ่มเติม หรือบางมหาวิทยาลัยอาจจะมีการสอบข้อเขียนเพิ่มเติมโดยทางมหาวิทยาลัยเอง น้องๆที่สนใจยื่นคะแนนในรอบนี้จะต้องมีผลงานเด่นๆที่เกี่ยวข้องกับสาขาที่ยื่น หรือกิจกรรมดีเด่นด้านต่างๆ เพื่อประกอบการพิจารณา โดยจะเปิดรับสมัครในช่วงเดือนธันวาคม – เดือนมกราคม
- รอบรับตรงแบบโควต้า : รอบนี้จะเน้นการใช้เกรด และการสอบข้อสอบเฉพาะของแต่ละมหาวิทยาลัย โดยแต่ละคณะของแต่ละมหาวิทยาลัยก็จะมีเกณฑ์การตัดสิน และคัดเลือกแตกต่างกันไป น้องๆเองต้องติดตามข่าวสารจากทางมหาวิทยาลัยนั้นๆเองโดยจะเปิดรับสมัครตั้งแต่ช่วงกุมภาพันธ์ – เมษายน
- รอบรับตรงร่วมกัน และกสพท. : รอบนี้จะเป็นการคัดเลือกโดยแต่ละสถาบันจะมีเกณฑืในการคัดเลือกของตนเอง แต่จะใช้ระบบข้อสอบกลางร่วมกัน โดยจะพิจารณาจากเกรดเฉลี่ยขั้นต่ำ (บางโครงการ), คะแนนสอบ 9 วิชาสามัญ, คะแนนสอบ GAT, คะแนนสอบ GAT, คะแนนสอบ O-NET และคะแนนสอบข้อสอบเฉพาะทางสำหรับบางคณะเช่นคณะแพทยศาสตร์ ซึ่งจะเปิดรับสมัครในช่วงมีนาคม – เมษายน
- รอบรับตรงแบบแอดมิชชั่น : รอบนี้จะเป็นการยื่นคะแนนเข้าระบบส่วนกลางเพื่อจัดอันดับคะแนนสูง – ต่ำ เทียบกับลำดับคณะที่น้องๆเลือกเข้าไปตามระบบ ซึ่งในรอบนี้จะไม่ได้ดำเนินการโดยมหาวิทยาลัย เป็นการใช้ระบบส่วนกลางเหมือนกันทั่วประเทศ โดยจะใช้เกรด, คะแนนสอบ O-NET, คะแนนสอบ GAT และคะแนนสอบ PAT ในการพิจารณา ซึ่งจะเปิดรับสมัครในช่วงเมษายน – พฤษภาคม
- รอบรับตรงแบบอิสระ : รอบนี้เป็นรอบที่ทางมหาวิทยาลัยจะกำหนดเกณฑ์ต่างๆในการรับนักศึกษษเข้าเรียนได้เองอย่างอิสระ อาจจะใช้เกณฑ์การพิจารณาโดยมหาวิทยาลัยเอง ใช้ข้อสบภายใน หรือจะใช้คะแนนจากข้อสอบส่วนกลางพิจารณาร่วมก็ได้ ซึ่งจะเปิดรับสมัครในช่วงพฤษภาคม
สามารถยื่นคะแนนได้ทุกรอบหรือเปล่า สงสัยจังเลย ?
เราสามารถยื่นคะแนนทุกรอบ หรือจะเลือกยื่นรอบใดก็ได้ ตราบใดที่เรายังไม่ผ่านเกณฑ์ หรือผ่านเกณฑ์แล้วแต่ไม่ได้ยืนยันสิทธิ์ในระบบ เราก็สามารถขอยื่นคะแนนในรอบต่อๆไปได้ แต่ถ้าหากเรายืนยันสิทธิ์ไปในรอบใดรอบนึงแล้ว ชื่อของเราจะถูกคัดออกจากส่วนกลาง และไปอยู่ในมหาวิทยาลัยที่เรายืนยันสิทธิ์แล้วทันที
แล้วถ้าไม่ผ่านรอบ 5 หล่ะ ?
หากผ่านจากรอบรับตรงอิสระไปแล้ว บางมหาวิทยาลัยอาจจะมีการพิจารณารับนักศึกษาเพิ่มเติมได้อีกในบางคณะที่เกณฑ์การรับนักศึกษายังไม่เต็มตามระบบ แต่ถ้าน้องๆยังไมได้คณะในฝันที่ถูกใจ ก็ต้องรอสู้ศึกกันใหม่ใน TCAS รอบถัดไป
แล้วจะรู้ได้อย่างไร ว่ามหาวิทยาลัยไหนอยู่ในระบบ TCAS บ้าง
สามารถดูได้ในเว็บไซต์ทางการของคณะ หรือมหาวิทยาลัยนั้นๆ หรือจะติดตามที่เว็บไซต์ หรือ facebook fanpage ของ AT HOME ก็ได้เพราะเราอัพเดทไวยิ่งกว่าจรวดอีกนะ !
ระบ เข้าใจ TCAS แล้ว คราวนี้ถึงตาน้องๆที่ต้องไปเตรียมตัวสู้ศึกใหญ่ครั้งนี้กันแล้ว น้องๆบางคนที่ยังไม่เตรียมตัว ตอนนี้ยังไม่สายนะ เพราะเรามีตัวช่วย แอพลิเคชั่น AT HOME ที่ยกติวเตอร์ระดับเทพมาให้น้องในแอพนิ้วแอพเดียว สะดวกแค่ปลายนิ้ว อยากติวก็โหลดเลยที่ https://web.athometh.com/download.html
ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการเรียน เคล็ดลับ trick เด็ด ๆ เกี่ยวกับการเรียน STUDYGRAM พร้อมสอบ และเรื่องราวทุกอย่างที่เกี่ยวกับวัยรุ่นได้ในทุกช่องทางของ AT HOME ทั้ง facebook, twitter และ IG อย่าลืมตามไปฟอลกันนะ❤️