อัครพล สว่างพาณิชย์ (เกรท) นักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เจ้าของคะแนนรวม 79.3 คะแนน และคะแนนสอบเข้าก็เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาเพราะ PAT1 ได้282/300 PAT2 ได้ 230/300 เลขวิชาสามัญได้ 91/100 และเคมีวิชาสามัญได้ 92/100 ใน EP นี้ใครที่มี passion อยากเป็นหมอ แต่มีวิชาที่รู้สึกว่าไม่ชอบ ไม่เก่ง ทำไม่ได้ แวะมาเติมกำลังใจกันก่อนนะคะ เพราะว่าเกรทก็แคยผ่านจุดที่เรียกว่าไม่เก่งวิชานั้นเลย สอบก็ได้คะแนนน้อยกว่าเพื่อน มาดูกันค่ะว่าเกรทเปลี่ยนตัวเองได้อย่างไร!
เป็นไงมาไงบ้าง?
เดิมทีตอนประถมเกรทเป็นเด็กต่างจังหวัดครับ ม.ต้น ก็เข้ามาสวนกุหลาบห้อง GATE Program ม.ปลาย ก็มาอยู่เตรียมอุดมฯครับ
จากสวนกุหลาบมาเตรียมอุดมฯ?
เจาก ม.ต้น พอเข้าสวนกุหลาบได้มันก็ mission complete ไปส่วนหนึ่ง เพราะตอน ป.6 เป็นเด็กต่างจังหวัดมีเป้าหมายว่าอยากเข้าสวนกุหลาบ พอติดปุ๊บก็รู้สึกว่าสำเร็จไปอีกหนึ่งขั้น ก็เลยทำตัวชิลมากครับ ม.ต้น ก็เล่นเกม เตะบอลไปวัน ๆ พอ ม.3 ก็เลยสอบมหิดลฯ ไม่ติด มันมีเวลาเตรียมตัวอยู่ไม่กี่เดือนครับ ก็เลยคิดว่าจะเป็นอย่างนี้ไม่ได้แล้วนะ ห้อง GATE Program มีอยู่ 4 ห้องซึ่งเกรทก็อยู่ห้องคิง แล้วในห้องเพื่อนก็ติดมหิดลฯ กันแทบทุกคนเลยครับ ไม่ติดอยู่สองคน เกรทรู้สึกว่า โห… มันเฟลมาก ต้องหาอะไรทำให้ชีวิตมันดีขึ้นกว่านี้แล้ว เพราะจุดมุ่งหมายเราคือเป็นหมอตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ถ้าเป็นอย่างนี้ไม่ติดแน่ ๆ ก็เลยเริ่มที่จะอ่านหนังสือ ขยันเรียน
แล้วเราเริ่มเตรียมตัวเข้าเตรียมฯ ตั้งแต่ตอนไหน?
1 เดือนก่อนสอบเองครับ สวนกุหลาบจะสอบเกินชั้นเรียนไปครับ ก็เลยทำให้มีพื้นฐานเวลาไปทำข้อสอบก็จะเร็วกว่าคนอื่น ก็เลยไปลงคอร์สพี่แม็กเป็นคอร์สเข้า ม.4 ตอนนั้นเลขเกรททำข้อสอบเป็นพันข้อเลยครับ ก็ค่อนข้างเยอะอยู่พอสมควร ได้วิชาเลขนี่แหละครับ มาแบกเข้าเตรียมฯ ไปได้ จำได้เลยว่าวิชาภาษาอังกฤษเวลาเกรทไปทำข้อสอบ เกรททำได้แค่ 5 ข้อ จาก 50 ข้อ ใจแป้วมาก แต่พอทำเลขก็รู้สึกโอเค น่าจะสอบได้
เตรียมตัว 1 เดือน วางแผนยังไง?
ตอนนั้นรู้สึกว่าเตรียมตัวภาษาอังกฤษไม่ทันแล้ว กะว่าเทวิชานี้ไปเลย ก็มาตั้งใจอัดเลขแบบเต็ม ๆ มีวิชาวิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะที่ค่อนข้างเรียนมาเยอะแล้วของสวนกุหลาบ สอนค่อนข้างโอเคเลย
เลขเป็นวิชาที่ถนัดที่สุดเลย?
ใช่ครับ อาจจะเรียกว่าพรสวรรค์นิดหน่อยครับ ตอนสอบเข้าค่ายเลขเกรทไม่ได้เรียนพิเศษที่ไหนเลยครับ ตอน ม.ต้น ก็สอบติดค่ายเลข ค่าย 1 ก็เข้าไปเรียนแต่รู้สึกว่าเรียนไปแล้วไม่ได้ชอบขนาดนั้น
ทำไมคิดว่าเรามีพรสวรรค์ด้านเลข?
รู้สึกว่าเรียนแล้วเข้าใจง่ายกว่าคนอื่น เพราะว่าเพื่อนในห้องทำไม่ได้ แต่เรารู้สึกว่ามันก็ไม่ได้ยากขนาดนั้นครับ
อยู่เตรียมอุดมฯ ทำกิจกรรมอะไรบ้าง?
ตอนเกรทอยู่มีชมรมประสานเสียงครับ ในเตรียมฯ ก็จะมีกิจกรรมเยอะครับ
ม.4 อยู่เตรียมอุดมฯ ต้องปรับตัวเยอะไหม?
ม.4 รู้สึกว่าเรียนแล้วมันง่ายมากครับ เพราะว่าที่สวนกุหลาบสอนเนื้อหาของ ม.4 เกือบหมดแล้วก็เลยเป็นที่ 1 ของห้อง ก็รู้สึกว่าที่สอบเข้ามาลำดับมันไม่ได้มีความหมายอะไรขนาดนั้น อยู่ที่ว่าในนั้นเราตั้งใจทำแค่ไหนมากกว่า อย่างที่บอกไปตอนแรกครับ พอสอบติดเตรียมฯ หลายคนก็อาจจะรู้สึกว่ามันถึงเป้าหมายของตัวเองแล้ว ก็เลยผ่อนตัวเองลงไป
เลขคะแนนดีไหม?
ดีครับ ม.4 เทอม 1 เลขยากได้ 36 มั้งครับ ก็ได้ที่ 1 ห้องครับ
แนะนำเรียนเลขกับใคร?
เรียนที่เดียวพอครับ พี่แม็กครับ
Recommend คอร์สไหน?
เกรทลงเรียนเลข ม.ปลาย กับพี่แม็กทุกคอร์สเลยครับ
คิดว่าพี่แม็กต่างจากที่อื่นยังไง?
ยากกว่าทุกที่ จริง ๆ เกรทมีพื้นฐานพอสมควรเลยคิดว่าทำโจทย์ของที่อื่นก็ทำได้ มันไม่ได้ช่วยพัฒนาอะไรให้ดีขึ้นขนาดนั้น แต่ว่าของพี่แม็กมีโจทย์จากหลาย ๆ ที่ มีโจทย์ยากค่อนข้างท้าทาย เวลาเราไปทำข้อสอบปกติทำไปเรื่อย ๆ แต่พอเรียนพี่แม็กปุ๊บ เหมือนเราได้ติดอาวุธเข้ามาในตัว เวลาทำจะรู้สึกมั่นใจมากขึ้น เพราะว่าเวลาพี่แม็กสอน พี่เขาจะไม่ได้สอนวิธีเดียว มีหลายวิธีที่ค่อนข้างดี รวดเร็ว และน่าสนใจ
รู้สึกว่าเรียนพี่แม็กแล้วสนุกครับ พี่แม็กเขาเข้าใจเด็ก ถ้าเรื่องวิชาการก็น่าจะเป็นโจทย์ครับ พี่แม็กใช้โจทย์ที่ทำเอง ด้วยความที่พี่แม็กเข้าใจเด็ก ถ้าเด็กไม่เปิดใจให้ครู ยังไงก็ไม่มีทางที่เด็กจะรับความรู้จากครู ครูบางคนมาสอนแต่ไม่ได้ให้ใจสอน แต่รู้สึกว่าพี่แม็กใช้ใจสอน เด็กเรียนแล้วมีความสุข enjoy class ไปด้วย เกรทว่ามันมีค่ามากกว่าการเรียนแล้วเนื้อหาเยอะ มันสนุกไปกับการเรียนครับ
ทำไมอยากเรียนหมอ?
ที่เกรทอยากเข้าหมอมันเริ่มมาจากตอนประถม ด้วยความที่เกรทเกิดมาเป็นคนต่างจังหวัด แล้วส่วนใหญ่ยายเป็นคนเลี้ยงเกรทมาเวลาไปที่ชุมชนหรือที่ต่าง ๆ ยายเกรทเป็นคนที่แบ่งปันก็เห็นมาเรื่อย ๆ ครับ มีป้ามีลุงเป็นหมอจบจากศิริราช เกรทปิดเทอมก็จะไปหาป้ากับลุงที่หัวหิน ป้ากับลุงของผมเองเป็นหมอที่หัวหิน ก็เลยได้มีโอกาสเข้าไปในโรงพยาบาลแล้วก็ไปดูป้ากับลุงทำงานบ่อย ๆ ครับ ค่อนข้างชอบครับ ช่วยเหลือคนแล้วเห็นคนยิ้มมันรู้สึกชอบ
พอรู้ตัวว่าอยากเป็นหมอแล้วเราทำอะไรต่อ?
ช่วงขึ้น ม.ต้น รู้สึกว่าถ้าเป็นเด็กต่างจังหวัดเรียนแค่ในโรงเรียนต่างจังหวัด โอกาสที่จะประสบความสำเร็จเป็นหมอมีน้อยกว่า ก็เลยตั้งใจแล้วสอบติดสวนกุหลาบ ตอนนั้นก็ใช้ชีวิตไม่ค่อยจะตั้งใจเรียนมากครับ ก็เตะบอล เล่นเกมไปวัน ๆ จุดเปลี่ยนคือตอนที่สอบมหิดลฯไม่ติดนี่แหละครับ มาเริ่มอ่านหนังสือมากขึ้นแล้วก็ตั้งใจสอบเข้าเตรียมอุดมฯครับ โรงเรียนเตรียมอุดมฯ เป็นโรงเรียนที่สอบไปยังไงก็มีโอกาสได้เป็นหมอแน่ ๆ ก็เลยเลือกเรียนเตรียมอุดมฯ ด้วยครับ มันเป็นโรงเรียนที่มีแต่เด็กมี passion อยากเป็นหมอ อยากจะดีที่สุดอะไรแบบนี้ครับ ก็เลยทำให้ช่วยผลักดันตัวเกรทให้ตั้งใจมากขึ้นไปอีก เหมือนเป็นสังคมที่หล่อหลอมให้คนที่ขยันและมี passion เดียวกันมาอยู่ด้วยกัน ยิ่งทำให้ช่วยส่งเสริมกัน
คิดไม่ผิดเลยที่เข้าเตรียมอุดมฯ?
คิดไม่ผิดนะครับ คือแต่ก่อนโรงเรียนสวนกุหลาบจะค่อนข้างแอนตี้เด็กจากเตรียมฯ จะรู้สึกว่าเป็นกบฏ รู้สึกว่ามาสวนกุหลาบจะได้เรื่อง connection ได้เรื่องเพื่อน จะรักเพื่อนสวนกุหลาบมาก ๆ แต่ถ้าไม่มาเตรียมฯก็ไม่น่าจะสอบติดหมอครับ เพราะว่าสังคมมันจะต่างกัน
เตรียมตัวสอบเข้าหมอยังไงบ้าง?
เกรทจะมี Planner ไว้ครับ ว่าวันนี้ต้องทำอะไรบ้าง ทำกี่ข้อ ต้องกำหนดไว้ครับ เพราะถ้าไม่กำหนดมันจะสะเปะสะปะ มันจะไม่ได้อะไร สมมุติว่าทำเลขฉบับแรกได้ 80 ฉบับสองได้ 86 ขึ้นมาอย่างนี้ จะรู้สึกมีความสุขครับ
แบ่งเวลาอ่านหนังสือประมาณกี่ชั่วโมง?
จะแบ่งเป็นช่วง ๆ ครับ เม.ย. – ส.ค. อ่านวันละ 6 – 7 ชั่วโมงไม่ได้เยอะมาก แต่ถ้าเป็นช่วง ส.ค. – ก.พ. จะเริ่มอ่าน 9 – 10 ชั่วโมง พอไปถึงช่วง มี.ค. เกรทก็ปล่อยสบาย ๆ เลยครับ ก่อนสอบก็รู้สึกว่าเตรียมตัวมาทั้งหมดนี้รู้สึกพร้อมแล้ว ในช่วงเดือน มี.ค. ทั้งเดือนจะอ่านวันละ 4 – 5 ชั่วโมงครับ ช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่เกรทหาอะไรที่ชอบจริง ๆ มานั่งทำ เกรทก็อ่านการ์ตูน ดูซีรีส์ด้วยครับ
เกรทเรียนเก่งทุกวิชาไหม?
ไม่ครับ ส่วนตัวเป็นคนที่ไม่มีววิชาไหนโดดขึ้นมา ยกเว้นภาษาอังกฤษที่ต่ำกว่าทุกวิชาเลย ด้วยความที่เรารู้ตัวว่าเราไม่เก่งอะไร เราก็พยายามทำสิ่งนั้นให้มันดีขึ้น อยากให้ตัวเองเก่งอะไรหลาย ๆ อย่าง เริ่มแรกคือวิชาภาษาอังกฤตอนนั้นทำข้อสอบวิชาสามัญชุดแรกได้ประมาณ 50 กว่า ๆ เต็ม 100 รู้สึกแย่มากครับ ตอนนั้นตั้งเป้าหมายว่าภาษาอังกฤษ 70 ก็พอแล้ว 70 นี่คือบุญแล้วในชีวิตขอสอบจริงได้ 70 ก็พอ แต่ว่าพอมาอยู่กับเพื่อนปุ๊บ เพื่อนสอบได้ 80 – 90 โอ้โห 70 ไม่น่าจะพอแล้ว จากนั้นก็ตั้งใจครับ อ่าน Passage ท่องคำศัพท์จนสอบจริงได้ 83.75 คะแนน
โห คะแนนสูงกว่าที่ตั้งไว้เยอะเลย
เกรทรู้สึกว่าถ้าเราพยายามทำอะไรมาก ๆ มันก็จะสำเร็จได้ทุกอย่าง รู้สึกดีทุกครั้งครับที่เวลาตั้งใจทำอะไรแล้วมันดีขึ้น ทำให้อยากจะทำอะไรให้มันดีเพิ่มขึ้นอีก อย่างเช่นเคมีครับ ที่เตรียมฯเกรทหลุด 4 เคมีบ่อยมาก มันเป็นวิชาที่หลุดบ่อยมากจนรู้สึกไม่ชอบ พอมาสอบจริงก็เลยเต็มที่ นั่งทำโจทย์เคมีพอ ๆ กับโจทย์เลขเลยครับ เกรทตั้งเอาไว้ว่าทำโจทย์แต่ละวิชาประมาณกี่ข้อ เลขก็ประมาณ 6,000 ข้อ แล้วก็เคมีก็น่าจะ 6,000 ข้อ พอ ๆ กัน เป็นสองวิชาที่ทำโจทย์จนรู้สึกว่าหลับตาก็ตอบได้ (ขำ)
ห๊ะ! 6,000 ข้อจริงดิ?
เกรทฝึกวิชาเลข 6,000 ข้อครับ แล้วก็เคมี 6,000 ข้อ ในการที่จะสอบ Entrance ฟิสิกส์น่าจะ 1,000 – 2,000 ข้อ
เริ่มทำโจทย์จริงจังตั้งแต่ตอนไหน?
มาเริ่มทำโจทย์จริง ๆ ตอน ม.6 ทำมาตั้งแต่เทอม 1 เพราะว่าเก็บเนื้อหาของเลขจบหมดแล้วครับ
การฝึกโจทย์เลขเยอะ ๆ ได้เปรียบไหม?
ได้เปรียบกว่าไม่ทำอยู่แล้วแน่ ๆ ครับ คนที่ไม่ทำคือ 0 เลยครับ มันไม่รู้อะไรเลย อย่างเช่นปี64 มันเปลี่ยนแนวนะครับ พอเปลี่ยนแนวปุ๊บ ถ้าคนที่ไม่ได้ทำโจทย์ที่ครอบคลุมก็อาจจะไม่สามารถประยุกต์ใช้ได้ ส่วนใหญ่ก็จะพลาดกันไป แต่พอเราทำโจทย์หลาย ๆ แนวเวลาโจทย์เปลี่ยนแนวเราก็ทำได้ เพราะเราทำโจทย์มาหลายแนวครับ
เกรทเลือกทำโจทย์ยังไง?
ถ้าสมมุติว่าข้อสอบมันไม่เปลี่ยนแนวก็ฝึกแนวเดิมก็ได้ครับ เพราะฝึกอย่างอื่นไปก็เสียเวลา ส่วนตัวเกรทคิดว่าเรียนมันไม่ใช่แค่เอาไว้สอบอย่างเดียว เรียนแล้วมันเก็บไว้ใช้ได้หลายอย่าง โตไปก็ต้องได้ใช้แน่ ๆ ก็เลยตั้งใจไว้
ทำโจทย์เยอะ ๆ ช่วยให้มั่นใจขึ้น?
รู้สึกมั่นใจจริง ๆ ครับ เพราะตอน ม.ต้น แบ่งเวลาไม่เป็นครับ ตื่นมาก็เล่นเกม มาที่โรงเรียนก็เล่นเกม เพราะว่าเพื่อนก็ชวนเล่น แต่ว่าเกรทสอบไม่ติดเพราะเพื่อน ๆ เล่นเกมแต่ว่าไปเรียนพิเศษ แต่เกรทไม่ได้ไปก็เลยมีจุดต่างตรงนั้นด้วยครับ
ตอนทำโจทย์รู้สึกท้อบ้างไหม?
แน่นอนต้องมีบ้าง ด้วยความที่เกรทเป็นคนที่ ถ้าอะไรเหนื่อยจะพัก เกรทเป็นคนที่หาสิ่งที่สบายใจทำได้เยอะครับ สมมุติว่าเกรททำโจทย์ไป 1 ชุดแล้วรู้สึกว่าเหนื่อย เกรทก็จะไปหาสิ่งที่ชอบมาก เช่น นั่งร้องเพลงให้แม่ฟัง ไปว่ายน้ำ ไปอ่านการ์ตูนอย่างนี้ครับ ทำแบบนี้แล้วอ่านไปด้วย มันไม่ได้ส่งผลให้การเรียนแย่กลับส่งเสริมให้ทุก ๆ อย่างของเกรทมันดีขึ้นก็เลยทำอย่างนั้นเสมอมาครับ บางคนจะเข้าใจผิดว่าเรียนเยอะ ๆ อย่างเดียว ทำโจทย์ทั้งวันทั้งคืน อ่านหนังสือทั้งวันทั้งคืนอย่างเดียวมันจะทำให้ชีวิตคนคนนั้นประสบความสำเร็จ แต่เกรทว่ามันไม่ใช่ เพราะถ้าทำแบบนั้นอย่างเดียวมันเครียดแน่ ๆ คนเราไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งนั้นสิ่งเดียวได้นานขนาดนั้น คือเกรทเคยลองทำอย่างนั้นทั้งวัน กลายเป็นว่าไม่ได้อะไร สมองเราไม่ได้รับทั้งที่เราอ่านไป
ถ้าเจอโจทย์ข้อที่ทำไม่ได้เลย มีวิธีแก้ยังไงบ้าง?
เจอข้อที่ทำไม่ได้มันก็หงุดหงิดนะครับ ตอนแรกก็จะพยายามก่อน นั่งทำไปเรื่อย ๆ ทำจนกว่าจะได้ แต่ถ้าไม่ได้จริง ๆ ก็ถามเพื่อนครับ ถามคอปเตอร์ (แพทย์ศิริราช EP.7) จริง ๆ คอปเตอร์ถามได้ทุกวิชาครับ
การเตรียมสอบควรเรียนล่วงหน้าไหม?
เกรทมองการสอบเป็นแค่ Event เหมือนสิ่ง ๆ หนึ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ไม่ได้มองงว่ามันจะตัดสินชีวิตอะไรจนาดนั้น เกรทก็เลยเตรียมตัวแบบชิล ๆ ไม่ได้ต้องเครียดอะไร เหนื่อยก็พักบ้าง ส่วนเรื่องของการเตรียมตัวอ่านหนังสือ ถ้าเราเข้าใจเนื้อหา ม.4 – ม.5 ถ้ามีพื้นฐานแล้วแนะนำว่าเรียนนำไปได้เลย แต่ถ้ายังไม่แม่นเนื้อหาที่ผ่านมาให้ไปทบทวนก่อนดีกว่า เรียนไปตามชั้นจริง ๆ คิดว่ามันไม่ได้เสียหาย คือเกรทจะเรียนจบทุกเนื้อหาช่วงปิดเทอม ม.5 เทอม 2 แต่ว่าบางคนไม่อยากทำไปก่อน ดองไว้ก่อนก็ได้ครับ จริง ๆ เตรียมตัวไปก่อนดีกว่าอยู่แล้ว
แนะนำเทคนิคการเตรียมตัวสอบ
เทคนิคการเตรียมตัว แนะนำ PAT1 ก็ได้ครับ อย่าง PAT1 เกรทจะย้อนทำไปตั้งแต่ปี 54 ที่มันจะมี 3 ชุด เกรทก็นั่งทำทุกชุดเลยครับ แต่ละปีมันจะมีสถิติบอกว่าช่วงคะแนนนี้มีเด็กกี่คน เกรทก็จะมานั่งนับตลอดเลยว่าสอบปุ๊บ เกรทได้ที่เท่าไหร่ของประเทศ ก็จะมานั่งนับเรื่อย ๆ จนมันเริ่มขยับขึ้นมาเรื่อย ๆ มันก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจครับ โดยส่วนตัวเกรทคิดว่าสถิติของเด็กแต่ละปีมันไม่น่าจะเปลี่ยนแปลง ต่อให้เป็นปีของเราก็ตาม เกรทรู้สึกว่าตอนนั้นเราอยู่ TOP 100 ถ้าเราไปสอบจริงมันไม่มีทางที่เราจะหลุดจากนี้ เป็นคนชอบการแข่งขัน ถ้าเราอยู่สูง ๆ ก็รู้สึกมีความสุข
ทำไมเลือกหมอที่ศิริราช?
สมมุติว่าแอบชอบใคร มันมี passion มากกว่าครับ คือตอนนั้นยังลังเลว่าจะไปจุฬาฯ หรือศิริราชดี แต่ว่าคนที่เรารู้สึกดีเขาไปจุฬาฯก็เลยรู้สึกว่าสอบจุฬาฯดีกว่า แต่สุดท้ายเพื่อนที่สนิทไปศิริราชก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ทำให้เลือกศิริราช
ตอนสอบติดหมอรู้สึกยังไงบ้าง?
พอสอบติดก็รู้สึกสบายใจมากกว่าครับ ไม่ได้รู้สึกว่าดีใจมาก คือเรารู้อยู่แล้วว่าเราจะได้ เราะเราพยายามมาขนาดนั้นแล้ว ไม่ได้รู้สึกว่า เย้! ที่ดีใจกว่าคือคุณแม่ครับ แม่ดีใจผมก็ดีใจครับ
เป้าหมายต่อไปหลังจากสอบติดหมอ?
เป้าหมายต่อไป ถ้าได้เรียนหมอมันเป็นสิ่งที่เราอยากจะเป็นรู้สึกชอบอยู่แล้วครับ ไปเรียนดูก่อนครับ ว่าเหมาะกับการที่จะไปต่อสายไหน ส่วนตัวสนใจศัลยแพทย์ คิดอยู่ว่าจะไปทางไหนเกี่ยวกับศัลยแพทย์ครับ ผ่าตัด ดูดไขมัน
ทำไมถึงสนใจด้านนี้?
ดูซีรีส์เยอะด้วยครับ มันอินแล้วอีกเรื่องคือตอนเรียนชีวะตอน ม.3 เรียนเรื่องหัวใจ พอเราเรียนเรื่องหัวใจกลายเป็นว่าเราสามารถจำ LABEL หัวใจแต่ละตำแหน่งได้หมดเลย จำได้เลยทันทีก็เลยรู้สึกว่าน่าจะเป็นทางของเราหรือเปล่า แต่ก็ต้องไปเรียนดูก่อนครับว่าเรียนได้ไหม
ไม่กลัวการผ่าตัด?
เป็นคนไม่ค่อยกลัวอะไรมาก ชอบความท้าทาย แล้วก็เกิดมาในชีวิตนี้ก็อยากที่จะทำอะไรหลาย ๆ อย่างด้วย เช่น ตอนเด็ก ๆ อยากเปิดคลินิกรักษาฟรี เพราะรู้สึกว่าครอบครัวเกรทไม่ได้ขัดสนอะไร อยากจะแบ่งปัน คือเห็นยายเป็นไอดอลเรื่องการแบ่งปัน เรื่องที่ทำงานเพื่อสังคมอะไรแบบนี้
เรียนกับใครใน AT HOME บ้าง?
ครูป๊อปแล้วก็พี่ต้องครับ
รู้จักครูป๊อปได้ยังไง?
เกรทเคยเรียนคอร์สสดครูป๊อปด้วย รู้สึกว่าครูป๊อปสอนสนุกมาก
เรียนบน AT HOME รู้สึกยังไงบ้าง?
ตอนที่เกรทใช้มันเพิ่งเปิดใหม่ ระบบมันง้องแง้ง แต่พัฒนามาเรื่อย ๆ จนรู้สึกว่าเสถียรขึ้น ตอนนี้ดีมาก ๆ ครับ
ฝากถึงน้อง ๆ ที่อยากเป็นหมอ
ฝากถึงน้อง ๆ นะครับ การที่เป็นหมอมันไม่ได้ง่าย และไม่ได้ยากครับ มันอยู่ที่ว่าเรารักที่จะเป็นอาชีพนี้ไหม หรือเราต้องการที่จะเป็นขนาดไหน อย่างเช่นเพื่อนพี่บางคนก็จะอยากเป็นหมอเพราะฐานะมั่งคง ด้วยความที่ในประเทศไทยค่อนข้างนับถือวิชาชีพหมอ พี่อยากให้มองว่าการที่น้องจะทำ หรือจะเลือกอาชีพอะไรอย่างนี้ อยากให้มาจากที่ตัวน้องชอบและรักที่จะทำมันครับ เพราะถ้าน้องชอบสิ่งไหนน้องจะรู้สึกว่าอยากจะทำมันต่อไป ถ้าน้องมาเป็นหมอแต่ไม่ได้ชอบมันก็จะกลายเป็นว่า น้องไปทำแต่ไม่ได้รู้สึกมีความสุขกับมัน ต่อให้ได้เงินกับความมั่นคง ชีวิตเราเกิดมาก็อยากให้มีความสุขมากกว่าครับ แล้วก็เรื่องการเตรียมตัวแน่นอนว่าไม่ต้องไปเครียดกับมันเยอะครับ เตรียมตัวให้พอดีกับเรา แต่ละคนก็จะมีการเตรียมตัวที่แตกต่างกัน เป้าหมายต่างกัน แต่ที่สำคัญคือไม่อยากให้เตรียมตัวแล้วรู้สึกไม่ดี อยากให้มีความสุขกับการเตรียมตัวครับ