น้อง ๆ ม.1 ที่เริ่มเรียนเรื่องนี้อาจจะรู้สึกว่าเรื่องนี้ค่อนข้างน่าสับสน พี่ ๆ ขอให้น้องมาดูสรุปนี้ก่อนน้า
เพราะจะประกอบไปด้วยเนื้อหาเข้าใจง่าย พร้อมสอนเทคนิคการทำภาพคลี่รูปทรงสามมิติ และเทคนิคการมองภาพทั้งด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง ให้ง่ายมากขึ้นด้วยนะ
เรขาคณิต 2 มิติ คือ อะไร
เรขาคณิต 2 มิติ คือ รูปเรขาคณิตที่มีโครงสร้างและรูปร่างที่แน่นอน มีแบบแผน
โดยจะมีเพียงด้านกว้างและด้านยาว ไม่มีด้านลึก ทำให้ไม่มีเนื้อที่ภายในและปริมาตรนั่นเอง
รูปเรขาคณิต 2 มิติ มีอะไรบ้าง
( ใส่รูปที่ 1 )
รูปเรขาคณิตสามมิติ
( ใส่รูปที่ 2 )
ความสัมพันธ์รูปเรขาคณิตสองมิติและสามมิติ
รูปเรขาคณิตสองมิติ เมื่อประกอบกันในสามมิติ จะได้รูปเรขาคณิตมิติ นั่นกล่าวได้ว่ารูปเรขาคณิตสามมิตินั้นประกอบไปด้วยเรขาคณิตสองมิตินั่นเอง หมายความว่าทั้งรูปเรขาคณิตสองมิติและรูปเรขาคณิตสามมิตินั้นมีความสัมพันธ์กันมาก โดยการจะบอกความสัมพันธ์ได้นั้นอาจต้องใช้การคาดเดาลักษณะของสิ่งที่กำหนดให้ด้วย
แกนสมมาตร คือ
แกนสมมาตร คือ เส้นที่แบ่งวัตถุหรือรูปนั้น ๆ ออกเป็นสองซีกเท่า ๆ กัน และสามารถพับหรือนำรูปทั้งสองมาซ้อนทับกันได้พอดี
ตัวอย่าง ( ใส่รูปที่ 3 )
แกนสมมาตรของรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า คือ สี่เหลี่ยมผืนผ้ามีแกนสมมาตรทั้งหมดจำนวน 2 แกนสมมาตร โดยมีทิศทางอยู่ทั้งในแนวตั้งและแนวนอน หรือด้านกว้างและด้านยาว ซึ่งแกนสมมาตรแต่ละเส้นจะแบ่งรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าออกเป็น 2 ส่วนเท่า ๆ กัน และเมื่อพับตามเส้นนั้นแล้วรูปทั้งสองมาซ้อนทับกันได้พอดี |
แกนสมมาตรของรูปวงกลม คือ วงกลมมีแกนสมมาตรนับไม่ถ้วน โดยแกนสมมาตรของวงกลมนี้จะเป็นเส้นที่ลากผ่านจุดศูนย์กลางของวงกลม หรือก็คือเส้นผ่านศูนย์กลางของวงกลม ซึ่งจะแบ่งวงกลมออกเป็นครึ่งวงกลม 2 รูปที่มีขนาดเท่ากัน และเมื่อพับตามแนวเส้นนี้แล้วรูปทั้งสองจะมาซ้อนทับกันได้พอดี |
แกนสมมาตรของสี่เหลี่ยมจัตุรัส คือ สี่เหลี่ยมจัตุรัสมีแกนสมมาตรทั้งหมดจำนวน 4 แกน ด้วยกัน โดยแต่ละแกนจะมีทิศทางอยู่ในแนวตั้ง แนวนอน และแนวเส้นทแยงมุม ซึ่งแกนสมมาตรในแนวตั้งและแนวนอนจะแบ่งรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสออกเป็นรูปสี่เหลี่ยม 2 รูปเท่า ๆ กัน สามารถพับหน้ากันได้พอดี ส่วนในแนวเส้นทแยงมุมนั้นจะแบ่งรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสออกเป็นรูปสามเหลี่ยม 2 รูปเท่า ๆ กัน และแน่นอนว่า เมื่อนำมาพับตามเส้นนั้นแล้วรูปทั้งสองมาซ้อนทับกันได้พอดี |
แกนสมมาตรของสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน คือ สี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนมีแกนสมมาตรจำนวน 2 แกน โดยมีทิศทางอยู่ในแนวเส้นทแยงมุม ซึ่งแกนสมมาตรแต่ละเส้นจะแบ่งรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนออกเป็นรูปสามเหลี่ยม 2 รูปเท่า ๆ กัน และเมื่อพับตามเส้นนั้นแล้วรูปทั้งสองมาซ้อนทับกันได้พอดี |
แกนสมมาตรของสามเหลี่ยมด้านเท่า คือ สามเหลี่ยมด้านเท่ามีแกนสมมาตรจำนวน 3 แกน ซึ่งแกนสมมาตรแต่ละเส้นจะแบ่งสามเหลี่ยมด้านเท่าออกเป็นรูปสามเหลี่ยม 2 รูปที่มีขนาดเท่ากัน และเมื่อพับตามเส้นนั้นแล้วรูปทั้งสองมาซ้อนทับกันได้พอดี |
แกนสมมาตรของสามเหลี่ยมหน้าจั่ว คือ สามเหลี่ยมหน้าจั่วเป็นสามเหลี่ยมที่มีมุมเท่ากันสองมุม และเท่ากันสองด้าน สามเหลี่ยมหน้าจั่วมีแกนสมมาตรจำนวน 1 แกน ซึ่งจะแบ่งสามเหลี่ยมหน้าจั่วออกเป็นรูปสามเหลี่ยม 2 รูปที่มีขนาดเท่ากัน |
แกนสมมาตรของสี่เหลี่ยมรูปว่าว คือ สี่เหลี่ยมรูปว่าวมีแกนสมมาตรจำนวน 1 แกน ซึ่งจะแบ่งสี่เหลี่ยมรูปว่าวออกเป็นรูปสามเหลี่ยม 2 รูปที่มีขนาดเท่า ๆ กัน และเมื่อพับตามเส้นนั้นแล้วรูปทั้งสองมาซ้อนทับกันได้พอดี |
แกนสมมาตรของสี่เหลี่ยมคางหมูแบบมีแกนสมมาตร คือ สี่เหลี่ยมคางหมูแบบนี้จะมีด้านตรงข้ามคู่หนึ่งที่ยาวเท่ากัน ส่วนอีกด้านขนานกันจะทำให้ มีแกนสมมาตรจำนวน 1 แกน ซึ่งจะแบ่งสี่เหลี่ยมคางหมูออกเป็นรูปสี่เหลี่ยม 2 รูปที่มีขนาดเท่ากัน และเมื่อพับตามเส้นนั้นแล้วรูปทั้งสองมาซ้อนทับกันได้พอดี |
แกนสมมาตรของสี่เหลี่ยมคางหมูแบบไม่มีแกนสมมาตร คือ สี่เหลี่ยมคางหมูแบบที่ 2 นี้เป็นแบบที่ไม่มีด้านใดที่ยาวเท่ากันเลย ส่งผลให้ ไม่มีแกนสมมาตร เนื่องจากไม่มีเส้นใดเลยที่ลากผ่านแล้วแบ่งรูปออกเป็น 2 ส่วนเท่า ๆ กันและเมื่อพับตามเส้นนั้นแล้วรูปทั้งสองมาซ้อนทับกันได้พอดี |
แกนสมมาตรของสี่เหลี่ยมด้านขนาน คือ สี่เหลี่ยมด้านขนานนั้นไม่มีแกนสมมาตร เนื่องจากไม่มีเส้นใด ๆ เลยที่ลากผ่านใน รูปสี่เหลี่ยมด้านขนาน แล้วสามารถแบ่งรูปออกเป็น 2 ส่วนเท่า ๆ กันและ เมื่อพับตามเส้นนั้นแล้วรูปทั้งสองมาซ้อนทับกันได้พอดีได้ |
แบบฝึกหัด เรขาคณิตสองมิติ พร้อมเฉลย
- ตามสมบัตินี้คือรูปเรขาคณิตใด มีด้านทุกด้านยาวเท่ากัน
มุมกาง 90 องศาทุกมุม
ความยาวของเส้นทแยงมุมเท่ากันทุกเส้น
เส้นทแยงมุมแบ่งครึ่งซึ่งกันและกันและตัดกันเป็นมุมฉาก
- สี่เหลี่ยมผืนผ้า
- สี่เหลี่ยมจัตุรัส
- สามเหลี่ยมหน้าจั่ว
- สี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน
เฉลย (2) สี่เหลี่ยมจัตุรัส
2. ตามสมบัตินี้คือรูปเรขาคณิตใด ด้านตรงข้ามยาวเท่ากัน
ด้านตรงข้ามขนานกัน มุมตรงข้ามกางเท่ากัน เส้นทแยงมุมไม่เท่ากัน แต่แบ่งครึ่งกัน
- สี่เหลี่ยมหน้าจั่ว
- สี่เหลี่ยมรูปว่าว
- สี่เหลี่ยมด้านขนาน
- สี่เหลี่ยมด้านไม่เท่า
เฉลย (3) สี่เหลี่ยมด้านขนาน
3. รูปที่กำหนดให้เป็นรูปที่มีกี่เหลี่ยม กี่มุม
- รูปสิบเหลี่ยม มี 10 ด้าน 10 มุม
- รูปสิบเอ็ดเหลี่ยม มี 11 ด้าน 11 มุม
- รูปสิบสองเหลี่ยม มี 12 ด้าน 12 มุม
- รูปสิบสามเหลี่ยม มี 13 ด้าน 13 มุม
เฉลย (3) รูปสิบสองเหลี่ยม มี 12 ด้าน 12 มุม
4. รูปเจ็ดเหลี่ยมกับรูปสิบเอ็ดเหลี่ยม รูปใดมีจำนวนเหลี่ยมมากกว่า และมากกว่าอยู่เท่าไร
- รูปเจ็ดเหลี่ยมมีจำนวนด้านมากกว่าอยู่ 4 ด้าน
- รูปเจ็ดเหลี่ยมมีจำนวนด้านน้อยกว่า อยู่ 3 ด้าน
- รูปสิบเอ็ดเหลี่ยมมีจำนวนด้านมากกว่าอยู่ 4 ด้าน
- รูปสิบเอ็ดเหลี่ยมมีจำนวนด้านน้อยกว่าอยู่ 3 ด้าน
เฉลย (3) รูปสิบเอ็ดเหลี่ยมมีจำนวนด้านมากกว่าอยู่ 4 ด้าน
5. ส่วนที่แรเงานั้น เป็นรูปเรขาคณิตในข้อใด
- สี่เหลี่ยมคางหมู
- สี่เหลี่ยมด้านขนาน
- สี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน
- สี่เหลี่ยมผืนผ้า
เฉลย (4) สี่เหลี่ยมผืนผ้า
6. รูปที่กำหนดให้นั้นมีแกนสมมาตรอยู่กี่แกน
- 1 แกน
- 2 แกน
- 3 แกน
- 4 แกน
เฉลย (2) 2 แกน
7. ข้อใดต่อไปนี้ที่มีจำนวนแกนสมมาตรมากที่สุด
- สามเหลี่ยม
- สี่เหลี่ยม
- หกเหลี่ยม
- วงกลม
เฉลย (4) วงกลม
8. จากรูปที่กำหนด มีรูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยมและรูปวงกลม
อย่างละกี่รูป
- รูปสามเหลี่ยม 2 รูป รูปสี่เหลี่ยม 3 รูป รูปวงกลม 1 รูป
- รูปสามเหลี่ยม 1 รูป รูปสี่เหลี่ยม 3 รูป รูปวงกลม 1 รูป
- รูปสามเหลี่ยม 2 รูป รูปสี่เหลี่ยม 2 รูป รูปวงกลม 1 รูป
- รูปสามเหลี่ยม 3 รูป รูปสี่เหลี่ยม 3 รูป รูปวงกลม 3 รูป
เฉลย (1) รูปสามเหลี่ยม 2 รูป รูปสี่เหลี่ยม 3 รูป รูปวงกลม 1 รูป
9. แกนสมมาตร หมายถึงอะไร
- รูปเรขาคณิตที่พับกันไม่ได้สนิท
- รูปเรขาคณิตที่พับกันได้สนิท
- รูปเรขาคณิตที่พับไม่ได้
- ถูกทุกข้อ
เฉลย (2) รูปเรขาคณิตที่พับกันได้สนิท
10. สี่เหลี่ยมชนิดใด ที่มีจำนวนแกนสมมาตรมากที่สุด
- สี่เหลี่ยมผืนผ้า
- สี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน
- สี่เหลี่ยมจัตุรัส
- สี่เหลี่ยมคางหมู
เฉลย (3) สี่เหลี่ยมจัตุรัส
เรขาคณิต 3 มิติที่เกิดจาก ภาพ รูปเรขาคณิตสองมิติ
น้อง ๆ รู้หรือไม่ว่าถ้าเราลองนำเรขาคณิต 2 มิติ มาวางซ้อนกันสามารถสร้างเป็นรูปเรขาคณิตสามมิติได้ด้วยน้า ตัวอย่างเช่น ถ้าเรานำเอาแผ่นกระดาษแบน ๆ ซึ่งคือตัวแทนของเรขาคณิตสองมิติ มาวางซ้อนกันเยอะ ๆ เราจะเห็นความสัมพันธ์ของเรขาคณิตสามมิติกับเรขาคณิตสองมิติได้ชัดเจนขึ้น ดังรูป
ตัวอย่างที่ 1
ในรูปจะเห็นว่ากระดาษรูป “สี่เหลี่ยมผืนผ้า” เมื่อซ้อนกันหลายรูปจะได้เป็น “ปริซึมฐานสี่เหลี่ยม”
ตัวอย่างที่ 2
เมื่อนำกระดาษรูปวงกลมมาซ้อนกันหลาย ๆ ใบจะได้เป็นทรงกระบอก ดังรูป
การคลี่รูปเรขาคณิต 3 มิติ
เพื่อให้เห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่าเรขาคณิตสามมิติมีความสัมพันธ์กับเรขาคณิตสองมิติ
การคลี่รูปเรขาคณิตสามมิติ ทำได้ดังนี้
ตัวอย่างที่ 1 คลี่ปริซึมฐานสี่เหลี่ยมมุมฉากเป็นภาพสองมิติ ( ใส่รูปที่ 4 )
ตัวอย่างที่ 2 คลี่ปริซึมฐานสามเหลี่ยมเป็นภาพสองมิติ ( ใส่รูปที่ 5 )
ตัวอย่างที่ 3 คลี่พีระมิดฐานสี่เหลี่ยมเป็นภาพสองมิติ ( ใส่รูปที่ 6 )
ตัวอย่างที่ 4 คลี่ทรงกระบอกตรงเป็นภาพสองมิติ ( ใส่รูปที่ 7 )
ตัวอย่างที่ 5 คลี่รูปกรวยกลมเป็นภาพสองมิติ ( ใส่รูปที่ 8 )
แบบฝึกหัด บอกชนิดของรูปเรขาคณิตสามมิติ ดังต่อไปนี้
(ลูกบาศก์)
(พีระมิดฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส)
(พีระมิดฐานสี่เหลี่ยมมุมฉาก)
(ปริซึมฐานสี่เหลี่ยมมุมฉาก)
หน้าตัดของรูปเรขาคณิตสามมิติ
การที่หน้าตัดของรูปเรขาคณิตสามมิติเป็นรูปต่างกันไป เนื่องจากแนวทางการตัด และชนิดของรูปทรงเรขาคณิตนั้น ๆ ด้วย
( ใส่รูปที่ 9 )
ภาพที่ได้จากการมอง ด้านหน้า ด้านข้าง ด้านบน เรขาคณิตสามมิติ
( ใส่รูปที่ 10 )
การเขียนรูปเรขาคณิตที่สร้างจากลูกบาศก์
ตัวอย่างภาพ
( ใส่รูปที่ 10 )
ในการเขียนภาพ เพื่อแสดงลักษณะของรูปเรขาคณิตสามมิติ ที่ได้จากการมองวัตถุทางด้านหน้า ด้านข้างและ ด้านบน ถ้าเป็นวัตถุที่สามารถหยิบจับได้แนะนำให้ลองหยิบมาดูโดยตรง โดยเราจะมีวิธีมองในแต่ละด้านตามแนวสายตาที่ตั้งฉากกับด้านที่มองดังต่อไปนี้เลยค่ะ
การมองภาพด้านหน้า ให้น้อง ๆ เลื่อนด้านหน้าของวัตถุเข้าหาตัวเอง จากนั้นจะสามารถเขียนรูปเรขาคณิตสองมิติแสดงภาพด้านหน้า
การมองภาพด้านข้าง
จากวัตถุที่หันด้านหน้าเข้าหาตัว หมุนวัตถุให้ด้านข้างหันเข้าหาตัวผู้มองแล้วเขียนรูปเรขาคณิตสองมิติแสดงภาพด้านข้าง
การมองภาพด้านบน
ให้พลิกวัตถุให้ด้านบนหันเข้าหาตัวผู้มองแล้วเขียนรูปเรขาคณิตสองมิติแสดงภาพด้านบน
ในการเขียนภาพ เพื่อแสดงลักษณะของรูปเรขาคณิตสามมิติ ที่ประกอบขึ้นจากลูกบาศก์ เราจะใช้วิธีการมองในแต่ละด้าน จากนั้นก็เขียนก้อนลูกบาศก์เอาไว้แสดงจำนวนอีกด้วย
แบบฝึกหัด เรื่อง เรขาคณิต สองมิติ
- กล่องลูกบาศก์กับกล่องสี่เหลี่ยมมุมฉากมีลักษณะใดแตกต่างกัน
- เป็นรูปทรงสามมิติ
- ฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก
- ด้านข้างของกล่องสองชนิดมีขนาดที่เท่ากันทุกประการ
- ถูกต้องทั้งข้อ 2 และ 3
เฉลย (3)
2. ผิวด้านข้างของรูปทรงกระบอก เป็นรูปเรขาคณิตสองมิติรูปใด
- รูปสามเหลี่ยมมุมฉาก
- รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส
- รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า
- รูปวงกลม
เฉลย (3) รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า
3. รูปคลี่สามมิติของรูปทรงสามมิติพีระมิดฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่กำหนดให้ คือข้อใดต่อไปนี้
- สามเหลี่ยมด้านเท่า 5 ด้าน สี่เหลี่ยมจัตุรัส 1 ด้าน
- สามเหลี่ยมด้านเท่า 5 ด้าน สี่เหลี่ยมจัตุรัส 2 ด้าน
- สามเหลี่ยมด้านไม่เท่า 4 ด้าน สี่เหลี่ยมจัตุรัส 1 ด้าน
- สามเหลี่ยมด้านเท่า 4 ด้าน สี่เหลี่ยมจัตุรัส 1 ด้าน
เฉลย (4) สามเหลี่ยมด้านเท่า 4 ด้าน สี่เหลี่ยมจัตุรัส 1 ด้าน
4. รูปคลี่ของปริซึมฐานห้าเหลี่ยม ประกอบไปด้วยรูปเรขาคณิตสองมิติใดบ้าง
- รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส และ รูปสี่เหลี่ยมคางหมู
- รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า และ รูปหกเหลี่ยมด้านเท่า
- รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส และ รูปห้าเหลี่ยมด้านเท่า
- รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า และ รูปห้าเหลี่ยมด้านเท่า
เฉลย (4) รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า และ รูปห้าเหลี่ยมด้านเท่า
5. จากรูปปริซึมฐานหกเหลี่ยมด้านเท่า หากมองจากด้านบนจะมองเห็นเป็นรูปเรขาคณิตสองมิติใด
- รูปห้าเหลี่ยม
- รูปหกเหลี่ยม
- รูปสี่เหลี่ยมด้านเท่า
- รูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก
เฉลย (2) รูปหกเหลี่ยม
แบบฝึกหัด เรื่องเรขาคณิต เก็งข้อสอบ เก็บคะแนนพร้อมเฉลย
- รูปเรขาคณิตที่มีฐานเป็นวงกลม มียอดแหลมที่ไม่อยู่ในระนาบเดียวกับฐาน และเส้นที่ต่อระหว่างจุดยอดใด ๆ บนของของฐานเป็นส่วนของเส้นตรง
- ปริซึม
- ทรงกระบอก
- พีระมิด
- กรวย
เฉลย (4) กรวย
2. รูปเรขาคณิตสามมิติที่มีผิวโค้งเรียบ และจุดทุกจุดบนผิวโค้งห่างจากจุดคงที่เป็นระยะทางเท่ากัน
- ปริซึม
- ทรงกลม
- ทรงกระบอก
- กรวย
เฉลย (2) ทรงกลม
3. ข้อใดไม่ถูกต้อง
- พีระมิดมีฐานเป็นรูปสามเหลี่ยมที่มีจุดยอดร่วมกัน
- ทรงกระบอกมีฐานเท่ากันทุกประการ
- เมื่อนำระนาบใด ๆ ตัดทรงกลม ได้หน้าตัดเป็นวงกลมใหญ่เสมอ
- ยอดของกรวยอยู่บนระนาบของฐานเสมอ
เฉลย (4) ยอดของกรวยอยู่บนระนาบของฐานเสมอ
4. ข้อใดเป็นลักษณะของทรงกระบอกที่ถูกต้องที่สุด
- ประกอบด้วยฐานสองฐานรูปเหลี่ยมใด ๆ และฐานสองฐานอยู่ที่ระนาบที่ขนานกัน
- มีฐานเป็นรูปวงกลมและยอดแหลม ซึ่งอยู่ในระนายเดียวกัน
- หน้าทุกหน้าเป็นรูปสามเหลี่ยม มีจุดยอดร่วมกันที่จุดแหลม
- ฐานเป็นรูปวงกลมสองรูป ซึ่งเท่ากันทุกประการและฐานสองฐานอยู่ระนาบที่ขนานกัน
เฉลย (4) ฐานเป็นรูปวงกลมสองรูป ซึ่งเท่ากันทุกประการและฐานสองฐานอยู่ระนาบที่ขนานกัน
5. ข้อใดกล่าวถึงพีระมิดฐานสี่เหลี่ยมได้ถูกต้อง
- ฐานรูปสามเหลี่ยม 2 รูป หน้ารูปสี่เหลี่ยม 5 รูป
- ฐานรูปสี่เหลี่ยม 1 รูป หน้ารูปสามเหลี่ยม 4 รูป
- ฐานรูปสามเหลี่ยม 1 รูป หน้ารูปสามเหลี่ยม 4 รูป
- ฐานรูปสี่เหลี่ยม 4 รูป หน้ารูปสามเหลี่ยม 1 รูป
เฉลย (2) ฐานรูปสี่เหลี่ยม 1 รูป หน้ารูปสามเหลี่ยม 4 รูป
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
รูปเรขาคณิตสองมิติ มีอะไรบ้าง
วงกลม / สามเหลี่ยม / สี่เหลี่ยม / ห้าเหลี่ยม / หกเหลี่ยม / แปดเหลี่ยม / วงรี
แกนสมมาตร คืออะไร
นั้น ๆ ออกเป็นสองซีกเท่า ๆ กัน
วิธีการเขียนรูปเรขาคณิตสองมิติ
ต้องมองมุมด้านหน้า ด้านข้าง ด้านบน ให้ถูกต้อง อาจฝึกจากการมองภาพตัวอย่างบ่อย ๆ ก็ช่วยได้เช่นกัน
รูปสองมิติ ม. 1 เรียนอะไร
ความสัมพันธ์ระหว่างภาพเรขาคณิตสองมิติ และภาพเรขาคณิตสามมิติ การคลี่ภาพรูปทรงสามมิติ รวมไปถึงการเขียนรูปสองมิติและสามมิติผ่านการมองด้านหน้า ด้านข้างและด้านบน
ความกว้าง ต่างกับ ความยาวอย่างไร
ความกว้างจะมีระยะสั้นกว่าความยาว ความยาวจะมีระยะที่มากกว่าความกว้าง
สี่เหลี่ยมชนิดใดที่มีลักษณะด้านเหมือนสี่เหลี่ยมจัตุรัส
สี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน
สี่เหลี่ยมที่มีด้านทั้งสี่ยาวเท่ากัน มุมแต่ละมุมไม่เป็นมุมฉาก คือ รูปสี่เหลี่ยมชนิดใด
สี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน
สี่เหลี่ยมชนิดใดที่มีลักษณะมุมเหมือนกับสี่เหลี่ยมผืนผ้า
สี่เหลี่ยมจัตุรัส
สี่เหลี่ยมชนิดใดที่มีด้านที่อยู่ติดกันยาวไม่เท่ากัน แต่ขนานกันสองคู่ และมุมทุกมุมเป็นมุมฉาก
สี่เหลี่ยมผืนผ้า
เป็นอย่างไรกันบ้างคะน้อง ๆ พอจะเริ่มมองรูปสามมิติออกเป็นสองมิติไหมคะ ทักษะการมองลูกบาศก์นั้นไม่เพียงเป็นหนึ่งบทในวิชาคณิตศาสตร์เท่านั้น หากน้อง ๆ ลองไปเปิดข้อสอบเชาว์ต่าง ๆ รวมไปถึงพาร์ทเชาว์ในวิชาความถนัดเฉพาะแพทย์แล้วนั้น การมองภาพสามมิติออกถือว่าเป็นประโยชน์มาก นอกจากนี้น้อง ๆ
ที่เตรียมตัวจะสอบความถนัดวิศวกรรมก็ต้องมีทักษะนี้เช่นกันน้า