ลำดับ เลขคณิต เป็นส่วนหนึ่งของบทลำดับและอนุกรม ซึ่งเป็นลำดับเลขคณิตนั้นเป็นเนื้อหาที่ประยุกต์ใช้กับอีกหลายบทมากในเลขม.ปลาย ถ้าน้อง ๆ ไม่อยากพลาดและต้องเสียเวลาทำความเข้าใจใหม่ในบทอื่น ๆ อีก พี่ ๆ ATHOME ขอแนะนำให้น้อง ๆ หมั่นทบทวนบทเรียนและฝึกทำโจทย์บ่อย ๆ เพื่อให้เกิดความแม่นยำขึ้น น้องคนไหนอยากเริ่มเรียนรู้เรื่องนี้ด้วยตัวเอง พี่ ๆ ก็เตรียมสาระดี ๆ มาให้ถึงหน้าจอแล้ว ดังต่อไปนี้เลยค่ะ
ลําดับ เลขคณิต คือ
ลำดับ เลขคณิต (Arithmetic Sequence) คือ ลำดับของตัวเลขที่ผลต่างซึ่งได้จากพจน์สองพจน์ที่อยู่ติดกัน มีค่าคงตัวเป็นค่าเดียวกัน โดยเราเรียกค่าคงตัวนั้นว่า ผลต่างร่วม (Common Difference) เขียนแทนด้วย d
ตัวอย่าง ลำดับเลขคณิต16, 3, -10, …, -244 ซึ่งมี d = -13200, 205, 210, …, 300 ซึ่งมี d = 5-1, -2, -3, …, -18 ซึ่งมี d = -1-8, -6, -4, -2, 0,…, 2, 4, 6 ซึ่งมี d = 22, 5 , 8,…,14 ซึ่งมี d = 31, -1 , -3, …, -9 ซึ่งมี d = -2 |
ลําดับเลขคณิต สูตรที่ใช้บ่อย
พจน์ทั่วไป an = a1 + (n-1)d
โดยที่ an = พจน์ลำดับที่ n
a1 = พจน์ลำดับที่ 1
n = จำนวนพจน์ในลำดับนั้นทั้งหมด
d = ผลต่างร่วม
ลําดับเลขคณิต สูตรลัด ใช้แก้โจทย์ได้เร็วขึ้น
- ลำดับเลขคณิต : ขวา-ซ้าย คงที่
- พจน์ทั่วไป คือ a1 + (n-1)d
- am = an + (m-n)d
เทคนิคการทำโจทย์ เมื่อโจทย์ให้ผลบวกของลำดับเลขคณิตโดย
- จำนวนพจน์เป็นเลขคี่
a1 + a2 + a3 + a4 + a5
a1 = x – 2d
a2 = x – d
a3 = x
a4 = x + d
a5 = X + 2d
- จำนวนพจน์เป็นเลขคู่
a1 + a2 + a3 + a4
a1 = x – 3d
a2 = x – d
a3 = x+d
a4 = x + 3d
ความหมายของลำดับ ต่างกับอนุกรมอย่างไร
ความแตกต่างของลำดับกับอนุกรมนั้น คือ ลำดับหมายถึงตัวเลขที่เรียงกัน อาจห่างกันเป็น ลำดับเลขคณิต ซึ่งมีผลต่างห่างคงที่ หรือ ลำดับเรขาคณิตที่มีอัตราส่วนห่างกันคงที่ แต่อนุกรมนั้นหมายถึงผลรวมของแต่ละพจน์ในลำดับนั้น ๆ
ลําดับ เลขคณิต ตัวอย่างแบบฝึกหัดพร้อมเฉลย
- ถ้าลำดับเลขคณิตมีพจน์ที่ 1 เป็น 6 และผลต่างร่วมเป็น 4 จงหาพจน์ที่ 15
วิธีทำ จากโจทย์ จะได้ a1 = 6, d = 4
ต้องการหา a15
จากสูตรพจน์ทั่วไป an = a1 + (n-1)d
แทนค่า a1 = 6, d = 4, n = 15
ดังนั้น a15 = 6 + (15-1)(4) = 62
ตอบ พจน์ที่ 15 คือ 62
- ลำดับเลขคณิต 16, 3, -10, …., -244 จะมีจำนวนพจน์เท่ากับกี่พจน์
วิธีทำ จากโจทย์ จะได้ a1 = 16 , d = -13 , an = -244 ต้องการหา n
จากสูตรพจน์ทั่วไป an = a1 + (n-1)d
แทนค่า a1 = 16 , d = -13 , an = -244
จะได้ -244 = 16 + (n-1)(-13)
-244 = 16 – 13n + 13
n = 21
ดังนั้นลำดับเลขคณิต 16, 3, -10, …., -244 จะมีจำนวนพจน์เท่ากับ 21 พจน์
ตอบ 21 พจน์
- จงหาจำนวนพจน์ทั้งหมดของลำดับเลขคณิตที่มีเงื่อนไขต่อไปนี้
- จำนวนนับที่มีค่าระหว่าง 100 กับ 500
- จำนวนนับที่มีค่าตั้งแต่ 100 ถึง 500
- จำนวนนับที่มีค่าตั้งแต่ 100 ถึง 500 ที่หารด้วย 7 และ 8 ลงตัว
- จำนวนนับที่มีค่าตั้งแต่ 100 ถึง 500 ที่หารด้วย 7 หรือ 8 ลงตัว
วิธีทำ (1) จำนวนนับที่มีค่าระหว่าง 100 กับ 500 มีจำนวนพจน์ = 500-100-1 = 399 จำนวน
ตอบ 399 จำนวน
(2) จำนวนนับที่มีค่าตั้งแต่ 100 ถึง 500 มีจำนวนพจน์ = 500-100+1 = 401 จำนวน
ตอบ 401 จำนวน
(3) จำนวนนับที่มีค่าตั้งแต่ 100 ถึง 500 ที่หารด้วย 7 และ 8 ลงตัว
ประโยคที่ว่า “หารด้วย 7 และ 8 ลงตัว” มีความหมายเช่นเดียวกับ “หารด้วย ค.ร.น.ของ 7 และ 8 ลงตัว” ซึ่ง ค.ร.น. ของ 7 และ 8 คือ 56
สรุปว่า โจทย์ต้องการหาจำนวนที่พจน์หารด้วย 56 ลงตัว
ดังนั้น a1 = 112 / d = 56 / an = 448
จากสูตรพจน์ทั่วไป an = a1 + (n-1)d
แทนค่า a1 = 112 / d = 56 / an = 448
จะได้ 448 = 112 + (n-1)(56)
448 = 112 + 56n – 56
n = 7
ดังนั้นจำนวนนับที่มีค่าตั้งแต่ 100 ถึง 500 ที่หารด้วย 7 และ 8 ลงตัว มี 7 จำนวน
ตอบ 7 จำนวน
(4) จำนวนนับที่มีค่าตั้งแต่ 100 ถึง 500 ที่หารด้วย 7 หรือ 8 ลงตัว เท่ากับ จำนวนนับที่มีค่าตั้งแต่ 100 ถึง 500 ที่หารด้วย 7 ลงตัว บวกกับ จำนวนนับที่มีค่าตั้งแต่ 100 ถึง 500 ที่หารด้วย 8 ลงตัว แล้วลบด้วย จำนวนนับที่มีค่าตั้งแต่ 100 ถึง 500 ที่หารด้วย 7 และ 8 ลงตัว
ขั้นตอนที่ 3 หาจำนวนนับที่มีค่าตั้งแต่ 100 ถึง 500 ที่หารด้วย 7 และ 8 ลงตัว
มี 7 จำนวน ดังนั้นจำนวนนับที่มีค่าตั้งแต่ 100 ถึง 500 ที่หารด้วย 7 หรือ 8 ลงตัว เท่ากับ 57 + 50 – 7 = 100 จำนวน
ตอบ จำนวนนับที่มีค่าตั้งแต่ 100 ถึง 500 ที่หารด้วย 7 หรือ 8 ลงตัว มี 100 จำนวน
โจทย์พร้อมเฉลย เรื่อง ลำดับเลขคณิต สนามสอบเข้ามหาวิทยาลัย
- ถ้า 𝑎1,𝑎2,𝑎3,…𝑎100 เป็นลำดับเลขคณิตซึ่ง มี 𝑎1 −𝑎2 +𝑎3 −𝑎4 +…+𝑎99 −𝑎100 = 40
แล้วผลต่างร่วมของลำดับเลขคณิตนี้เท่ากับข้อใดเท่าใด [กสพทคณิต2(มี.ค.2561/7)
วิธีทำ
𝑎1 −𝑎2 +𝑎3 −𝑎4 +…+𝑎99 −𝑎100 = 40 (คูณด้วย -1 ทั้งสมการ)
−𝑎1 +𝑎2 −𝑎3 +𝑎4 −…−𝑎99 +𝑎100 = -40
(𝑎2 − 𝑎1) + (𝑎4 − 𝑎3) + … + (𝑎100 − 𝑎99) = -40
𝑑 + 𝑑 +…+ 𝑑 = -40
50𝑑 = -40 (100พจน์เท่ากับ 50คู่)
d = -45
ตอบ d = -45
- จัสตินจัดการแสดงดนตรีแจกเสื้อให้ผู้เข้าร่วมงาน คนที่ 99, 144, 189, 234, 279, … ถ้ามีผู้เข้าร่วมงานทั้งหมด 1500 คน แล้วมีผู้เข้าร่วมรับเสื้อทั้งหมดกี่คน [O-NET(มี.ค.2562/38)]
วิธีทำ จะเห็นว่าหมายเลขของคนที่ได้เสื้อ เป็นลำดับเลขคณิต ที่มี a1 = 99 d = 45
ดังนั้น หมายเลขของคนที่ได้เสื้อต้องสอดคล้องกับสูตรพจน์ทั่วไป
มีผู้เข้าร่วมงาน 1500 คน แสดงว่าจำนวนคนรับเสื้อต้องไม่เกิน 1500 คน
จะได้ 45n + 54 1500
n 32 กว่า ๆ
แต่ n ต้องเป็นจำนวนเต็ม ดังนั้น n = 32
ตอบ คนที่ได้เสื้อมีจำนวน 32 คน
- ตามสถิติการเกิดโรคระบาดครั้งหนึ่ง เมือง ก มีจำนวนผู้ป่วยลดลงวันละ 22 คน ในขณะที่เมือง ข มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น วันละ 15 คน ถ้าในเมือง ก และในเมือง ข มีผู้ป่วยจำนวน 745 คน และ 42 คนตามลำดับ แล้วเมื่อทั้งสองเมือง มีผู้ป่วยจำนวนเท่ากันนั้น แต่ละเมืองมีผู้ป่วยจำนวนเท่าใด
วิธีทำ จำนวนผู้ป่วยที่เพิ่ม/ลดของแต่ละเมือง จัดเป็นลำดับเลขคณิต
สามารถใช้สูตรพจน์ทั่วไปในการหา n ได้
จากสูตร an = a1 + (n-1)d
เมือง ก มีผู้ป่วยเริ่มต้น 745 คน และลดลงวันละ 22 คน → จะได้จำนวนผู้ป่วย = 745 + (n-1)(-22)
เมือง ข มีผู้ป่วยเริ่มต้น 42 คน และเพิ่มขึ้นวันละ 15 คน → จะได้จำนวนผู้ป่วย = 42 + (n-1)(15)
ดังนั้นจำนวนผู้ป่วยจะเท่ากันเมื่อ 745 + (n-1)(-22) = 42 + (n-1)(15)
745 – 22n + 22 = 42 + 15n – 15
767-22n = 27 + 15n
-37n = -740
แก้สมการ n = 20
เมื่อนำ n = 20 ไปแทนหาจำนวนผู้ป่วยในเมือง ข จะได้ผู้ป่วย = 42 + (20-1)(15)
= 42 + 300 – 15 = 327
ความจริงแล้วนำไปแทนในเมืองไหนก็ได้เช่นกัน เพราะแต่ละเมืองมีจำนวนผู้ป่วยเท่ากัน
ตอบ จำนวนผู้ป่วย คือ 20 คน
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
สูตรที่ใช้ในแบบฝึกหัด การหาพจน์ทั่วไปของลําดับ
an = a1 + (n-1)d
อนุกรม เลขคณิต กับ ลำดับ เลขคณิต ต่างกันยังไง
อนุกรมเลขคณิตคือการนำลำดับเลขคณิตมาหาผลบวก
อนุกรม เลขคณิต ออกบ่อยแค่ไหนในสนามเข้ามหาวิทยาลัย
จากสถิติข้อสอบบทนี้ออกบ่อยและเก็บคะแนนได้ไม่ยาก พบทั้ง PAT 1 และคณิตสามัญ 1
ต้องเข้าใจเรื่องอะไรก่อนเรียน อนุกรม เลขคณิต
ลำดับเลขคณิต
อนุกรม เลขคณิต สามารถประยุกต์กับบทเรียนไหนในวิชาคณิตศาสตร์
เมทริกซ์ แคลคูลัส
สูตรที่ใช้ในแบบฝึกหัด การหาพจน์ทั่วไปของลําดับ
ตอบ an = a1 + (n-1)d
ลำดับเลขคณิต กับ ลำดับเรขาคณิต ต่างกันยังไง
ตอบ ลำดับเลขคณิต จะมีผลต่างร่วม ลำดับเรขาคณิตจะมีอัตราส่วนร่วม
ลำดับเลขคณิต โจทย์ประยุกต์กับบทไหนได้บ้าง
ตอบ เมทริกซ์ แคลคูลัส ดอกเบี้ยทบต้น
ลำดับเลขคณิต ตัวอย่าง
ตอบ 200, 205, 210, …, 300 ซึ่งมี d = 5
สรุปสูตรลำดับเลขคณิต
ตอบ an = a1 + (n-1)d และ am = an + (m-n)d
เป็นอย่างไรกันบ้างคะน้อง ๆ เนื้อหาเรื่องลำดับเลขคณิตนั้นไม่ได้ยากเหมือนที่คิดเอาไว้ใช่ไหมล่ะคะ ใครที่อยากเพิ่มพูนความชำนาญด้านคณิตศาสตร์ ทั้งของม.ต้น และม.ปลาย ก็อย่าลืมคอยติดตามคอนเทนต์ ที่รวบรวมสรุปแบบเข้าใจง่าย และโจทย์เก็งและโจทย์จริงของสนามสอบสำคัญต่าง ๆ แบบนี้อีกต่อ ๆ ไปน้า ถ้าน้อง ๆ ทำอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะไม่ได้ถนัดวิชาคณิตศาสตร์ตั้งแต่แรกก็จะได้ความคล่องมือมากขึ้นแน่นอนเลย