ใครอยากเรียนต่อภาคอินเตอร์เชิญทางนี้เลยค่ะ AT HOME รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับข้อสอบยื่นเข้าคณะอินเตอร์มาฝากกันแบบจุก ๆ ทุกคนจะได้รู้จักและเข้าใจการสอบแต่ละอย่างากขึ้น ว่ามันคืออะไร ใช้ทำอะไร และเปิดสอบตอนไหนบ้าง เพื่อที่ทุกคนจะได้มีเวลาเตรียมตัวสอบวิชาที่เราต้องใช้อย่างมีประสิทธิภาพ เกริ่นมาขนาดนี้แล้วก็อย่ารอช้า เราไปดูกันดีกว่าว่ามีการสอบอะไรบ้าง!
BMAT
การสอบเฉพาะทางสำหรับคนที่อยากเข้าศึกษาต่อในสาขาการแพทย์ ทันตแพทย์ สัตวแพทย์ และเภสัชฯ สามารถยื่นสมัครเข้าเรียนระดับปริญญาตรีได้ทั้งในไทย และต่างประเทศ
คะแนนใช้ทำอะไร?
- ใช้ยื่นรอบ Portfolio คู่กับคะแนน TOEFL / IELTS ทั้งภาคไทยและภาคอินเตอร์
ข้อสอบแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย
- Thinking Skills: วัดทักษะในการแก้ปัญหาและคิดวิเคราะห์
- Scientific Knowledge and Application: วัดความรู้ด้านการประยุกต์ใช้ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ และคณิตศาสตร์
- Writing Task: วัดการเขียนตอบคำถาม
ช่วงที่สอบ: จัดสอบ 2 รอบต่อปี คือช่วงเดือนกันยายน และพฤศจิกายน โดยเลือกสอบได้รอบเดียวเท่านั้น
SAT
เป็นการสอบมาตรฐานสากลที่ใช้วัดระดับความถนัดในวิชาภาษาอังกฤษ และคณิตศาสตร์ ของนักศึกษามหาวิทยาลัยในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งในปัจจุบันเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก ทำให้หลาย ๆ ประเทศรวมถึงประเทศไทยนำมาเป็นเกณฑ์การรับนักศึกษาของคณะนานาชาติ โดยสามารถสอบล่วงหน้าได้ตั้งแต่ ม.4 – ม.5 คะแนนมีอายุการเก็บอยู่ที่ 2 ปี
คะแนนใช้ทำอะไร?
- ใช้ยื่นรอบ Portfolio และรอบ Quota ในหลักสูตรนานาชาติร่วมกับคะแนนข้อสอบวัดระดับภาษา ยื่นได้หมดทั้งมหาวิทยาลัยในไทย และต่างประเทศ
ข้อสอบแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วย
- Evidence-Based Reading & Writing: ใช้เวลา 1 ชม. 40 นาที (คะแนนเต็ม 800) แบ่งข้อสอบออกเป็น 2 ชุด คือ Reading มี 52 ข้อ และ Writing and Language มี 44 ข้อ
- Mathematics: ใช้เวลา ใช้เวลา 1 ชม. 20 นาที (คะแนนเต็ม 800) แบ่งข้อสอบเป็น 2 ชุด คือ
- Math Test – Calculator มี 38 ข้อ เป็นทั้งแบบ Choice และ เติมคำตอบ
- Math Test – No Calculator มี 20 ข้อ เป็น Choice 16 ข้อ และเติมคำตอบ 4 ข้อ
***คะแนนเต็ม 1,600 (Part ละ 800 คะแนน) ตอบผิดไม่ติดลบ
ช่วงที่สอบ: จัดสอบ 4 รอบต่อปีในเดือนมีนาคม พฤษภาคม ตุลาคม และธันวาคม
GED
หลักสูตรการศึกษานอกโรงเรียนในระดับม. ปลาย (High School) ของสหรัฐอเมริกา หรือเรียกให้เข้าใจง่าย ๆ คือ ระบบสอบเทียบสำหรับนักเรียนมัธยมปลาย เท่าวุฒิ ม.6 ของประเทศไทย โดยคนที่จะสอบต้องมีอายุ 16 ปีขึ้นไป เหมาะกับคนที่รู้สึกอิ่มตัวกับชีวิตมัธยม อยากออกไปค้นหาตัวเอง หรือคนที่ค้นหาตัวเองเจอแล้วอยากไปทำสิ่งที่ชอบมากกว่า
คะแนนใช้ทำอะไร?
- ยื่นได้เกือบทุกคณะทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ ยกเว้นคณะแพทยศาสตร์ในไทย (ยื่นได้เฉพาะแพทย์ในต่างประเทศ)
ข้อสอบ: เน้นการคิดวิเคราะห์ และการนำมาประยุกต์
- Reasoning Through Language Arts: การอ่าน และเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ
- Science: การอ่านบทความภาษาอังกฤษ การทดลอง การอ่านตัวเลขและกราฟ
- Social Studies: การอ่านและวิเคราะห์ข้อมูลประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง และภูมิศาสตร์
- Mathematical Reasoning: การเลือกใช้สูตร การคิดเลข และการแก้ปัญหาทางพีชคณิต
ช่วงที่สอบ: เปิดสอบตลอดทั้งปี มีเวลาหลายรอบให้เลือกสอบได้
IELTS
เป็นการสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษที่ออกแบบมาเพื่อประเมิณทักษะของผู้ที่ต้องการใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการสื่อสาร สำหรับการทำงาน การศึกษา หรือการย้ายถิ่นฐาน เหมาะสำหรับยื่นเข้ามหาลัยอินเตอร์ในไทย รวมไปถึงการเรียนต่อต่างประเทศ เพราะเป็นผลสอบที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก
คะแนนใช้ทำอะไร?
- ยื่นรอบ Portfolio หลักสูตรนานาชาติในไทย โดยแต่ละคณะ แต่ละมหาวิทยาลัย จะมีเกณฑ์กำหนดของคะแนนสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ และวิชาอื่น ๆ ที่แตกต่างกันไป
ข้อสอบแบ่งออกเป็น 4 ส่วน ประกอบด้วย
- การฟัง (Listening) 30 นาที: ฟังเนื้อเรื่อง และบทสนทนาจากเทปเสียง แล้วตอบคำถามให้ถูกต้อง
- การพูด (Speaking) 11 – 14 นาที: พูดคุยเรื่องทั่วไป หลังจากนั้นกรรมการจะมีการคำถามมาให้ มีเวลาให้เตรียมตัวก่อนพูด 1 นาที แล้วหลังจากนั้นกรรมการจะให้ผู้สอบพูด 3 – 4 นาที สุดท้ายจะเป็นการพูดโต้ตอบกันในหัวข้อที่ 2
- การอ่าน (Reading) 60 นาที: มีเนื้อเรื่องมาให้อ่าน และตอบคำถามจากบทความทั้งหมด 40 ข้อ
- การเขียน (Writing) 60 นาที: เรื่องแรก คือการเขียนในลักษณะอธิบายข้อมูลที่ให้มาในรูปแบบกราฟ ตาราง แผนผัง ต้องเปรียบเทียบข้อมูลต่าง ๆ โดยที่ต้องเขียนอย่างน้อย 150 คำเป็นอย่างต่ำ เรื่องที่สอง คือการเขียนเรียงความหรือรายงานอย่างเป็นทางการ และเป็นการแสดงความคิดเห็น การหาทางออก ของปัญหาหรือวิจารณ์หัวข้อที่ให้มา โดยต้องเขียนอย่างน้อย 250 คำ
ช่วงที่สอบ: เปิดสอบตลอดทั้งปี ทางศูนย์สอบจะมีการกำหนดวันสอบที่ต่างกัน
TOEFL iBT
เป็นการสอบเพื่อวัดระดับความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษเชิงวิชาการ โดยสอบผ่านระบบอินเตอร์เน็ต เหมาะสำหรับคนที่สนใจอยากเรียนต่างประเทศ ต้องการสอบชิงทุน หรือคนที่ต้องการสอบวีซ่า
คะแนนใช้ทำอะไร?
- ยื่นรอบ Portfolio ได้เลย โดยแต่ละคณะ แต่ละมหาวิทยาลัย จะมีเกณฑ์กำหนดของคะแนนสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ และวิชาอื่น ๆ ที่แตกต่างกันไป
ข้อสอบ: ใช้ประเมิณความสามารถทางภาษาอังกฤษ ทั้งการฟัง (60 – 90 นาที) การพูด (20 นาที) การอ่าน (60 – 100 นาที) และการเขียน (50 นาที)
ช่วงที่สอบ: เปิดสอบตลอดทั้งปี ทางศูนย์สอบจะมีการกำหนดวันสอบที่ต่างกัน
CU – TEP
เป็นการทดสอบวัดความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษา เหมาะสำหรับวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษา ทั้งในระดับปริญญาตรี และบัณฑิตศึกษา ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยผลสอบจะมีอายุ 2 ปีนับจากวันที่สอบ
คะแนนใช้ทำอะไร?
- ยื่นเข้าภาคอินเตอร์ในจุฬาฯ หรือมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ที่ยอมรับคะแนน CU – TEP เป็นเกณฑ์
ข้อสอบ: วัดทักษะด้านการฟัง การอ่าน และการเขียนภาอังกฤษ
ช่วงที่สอบ: เปิดสอบตลอดทั้งปี ทางศูนย์สอบจะมีการกำหนดวันสอบที่แตกต่างกัน
TU – GET
เป็นการทดสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษ ที่จำเป็นสำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรีและระดับบัณฑิตศึกษาของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
คะแนนใช้ทำอะไร?
- ยื่นเข้าภาคอินเตอร์ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หรือมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ที่ยอมรับคะแนน TU – GET เป็นเกณฑ์
ข้อสอบแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย
- Grammar & Structure 25 ข้อ: Sentence Completion (การเติมประโยคให้สมบูรณ์ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์) และ Error Identification (การบ่งชี้ว่าข้อเลือกใดเป็นข้อที่ผิดกฎทางไวยากรณ์)
- Vocabulary 25 ข้อ: เว้นช่องว่างไว้ให้เติมคำศัพท์ที่ถูกต้อง และขีดเส้นใต้คำในประโยค แล้วให้เลือกคำที่มีความหมายใกล้เคียงกับกลุ่มคำที่กำหนดให้
- Reading Comprehension 50 ข้อ: เป็นการวัดทักษะการอ่านหลายๆ ด้าน เช่น main idea, detail information, pronoun reference, inference และ conclusion เป็นต้น
ช่วงที่สอบ: เปิดสอบตลอดทั้งปี มีเวลาหลายรอบให้เลือกสอบ
CU – AAT
เป็นแบบทดสอบวัดความสามารถทางด้านคณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ คล้ายข้อสอบ SAT เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี หลักสูตรภาษาอังกฤษ และหลักสูตรนานาชาติของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
คะแนนใช้ทำอะไร?
- ยื่นเข้าภาคอินเตอร์ในจุฬาฯ หรือมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ที่ยอมรับคะแนน CU – AAT เป็นเกณฑ์
ข้อสอบ: ตอบถูกได้คะแนน (ทุกข้อได้คะแนนเท่ากัน) และตอบผิด หรือไม่ได้ตอบได้ 0 คะแนน (ทั้งนี้ตั้งแต่รอบการสอบวันที่ 27 ก.ค.62 เป็นต้นไป) ต้องสอบทั้งหมด 2 วิชา ประกอบด้วย
- Math Section: ความสามารถด้านคณิตศาสตร์ (70 นาที)
- Verbal Section: ความสามารถด้านภาษาอังกฤษ (70 นาที)
ช่วงที่สอบ: จัดสอบ 5 รอบต่อไป ในเดือนมกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม กรกฎาคม และธันวาคม
และนี่ก็คือข้อสอบที่สามารถใช้ยื่นเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยได้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศได้ น้อง ๆ คนไหนสนใจอยากเข้าอินเตอร์ หรืออยากได้ทุน AT HOME แนะนำว่าไปสอบไว้ก็ไม่เสียหายนะคะ เพราะผลสอบเหล่านี้สามารถเพิ่มทางเลือกให้น้อง ๆ ได้มากขึ้น ถ้าใครลองไปสอบแล้วอยากแบ่งปันประสอบการณ์ ก็อย่าลืมมาแบ่งปันประสบการณ์กับเพื่อน ๆ ได้ที่ Facebook IG Twitter หรือจะทักมาที่ Line: @athometh หรือคลิก http://nav.cx/jiM3wC4 ก็ได้น้า~
ส่วนใครที่กำลังเตรียมตัวสอบสนามอินเตอร์ มาเรียนออนไลน์กับสุดยอดติวเตอร์ได้บน AT HOME ทดลองเรียนฟรีที่นี่เลย! : https://bit.ly/3piDdiN